วันอังคารที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2557

วิเคราะห์ฟุตบอลศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษในสัปดาห์แรกที่ผ่านมาทีมใดจะเป็นทำนองบ้างมาสังเกตกันเลย



เป็น 2ทีมที่อยู่คนละขั้ว



ซึงหากมองที่ ประเด็นหลักๆ ของศึกโปรแกรมพรีเมียร์ลีก ณ กาลหลังเปลี่ยนแมตช์แรกของฤดูมาแบบนี้คงต้องบอกว่า เรื่องฟอร์มเทพ เชลซี และฟอร์มบู่ แมนฯยูไนเต็ด

และน่าจะกินพื้นที่มากที่สุด และมีประเด็นย่อย ต่อยอด ตามมามากมาย

หลังจากที่ เชส ฟาเบรกาส ได้เอิ้นอย่างมีความสุขว่า อยู่กับทีมเชลซีแล้ว เล่นง่าย ชีวิตสะดวกสบายไร้กังวลเกินกว่าที่คาดหวังไว้เยอะ

โดยที่ล่าสุดหลังผลงานถล่ม เบิร์นลีย์ 3-1 ซึ่งราคา ต่อรอง จะเป็นแชมป์ของ โจเซ่ มูรินโญ่ และสมาชิกก็ยิ่งถูกหั่นลงไปอีก

สำหรับควันหลง จากเกมที่ทีม เทิร์ฟ มัวร์ ที่ยังไม่ค่อยมีใครแจะถึงก็คือ การลงสนามหญ้าแทน เอด็อง อาซาร์ ของดิดิเยร์ ดร็อกบา ในนาทีที่ 84


ซึ่งชิ้นงานนี้ แม้ว่าหัวหอกใน ตำนาน ของสโมสรยังทำประตูไม่ได้ แต่จังหวะเปิดยาวจากประตูของ ติโบต์ กูร์กตัวส์ แล้วไปดร็อกบา เก็บบอล หรือชิงโหม่งได้ตลอด

นั่นถือว่าเป็น อีกมิติหนึ่ง ที่ทำเอา เฟอร์นานโด ตอร์เรส ไร้อนาคตในสแตมฟอร์ด บริดจ์ ไปเลยล่ะครับ

โดยที่งานนี้ได้ ตอกย้ำ นโยบายการต้องมี ตัวจริง 2 ทีม ไล่ตั้งแต่นายทวาร กูร์กตัวส์หรือปีเตอร์ เช็ก ไปถึง คอสต้าหรือดร็อกบา หรือไม่ใช้ประมาณ 24 นักเตะครีมๆ ท็อปๆ

และตรงกันข้ามทีม แมนฯยูฯ ที่ มาร์กอส โรโฮ ออกมายืนยันส่วนตัวก่อนที่พักผ่อนต้นสังกัดทั้งเก่าหรือใหม่จะ คอนเฟิร์ม การย้ายทีมสู่แมนฯยูไนเต็ด กำลังดูไม่จืดอยู่หลายเรื่องเลยทีเดียว

ที่หนักสุดเห็นจะเป็น ตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ เอ๊ด วู้ดเวิร์ด สั่นคลอนเป็นเจ้าเข้าแน่ๆ หากไม่สามารถซื้อตัวผู้เล่นมีระดับมาเสริมทีมได้อีก

โดยที่ทาง เดลี เมล์ ก็เล่นสัมภาษณ์ยาวเหยียด เดวิด มอยส์ แบบถูกจังหวะเวลาตอนแพ้เกมแรกในบ้านเป็นครั้งแรกในรอบ 42 ปี


อาจจะเพรียกหาได้ว่าเป็นการ ขยี้ กันเห็นๆ และเหลือเชื่อเหมือนกันนะครับว่า แพ้แค่ครั้งเดียว แต่ทำเอา เครดิต ของหลุยส์ ฟาน ฮัล สะเทือนไปเหมือนกัน

โดยที่ในเวลาไล่เลี่ย  กัน เรเน่ มูเลนสตีน อดีตผู้ช่วยเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็โดนทาง บีบีซี ลากไปจ้วง เดวิด มอยส์ ย้อนหลัง

หลังจากที่ปัจจุบันสดๆ ร้อนๆ ก็ได้มี ภาพข่าว ของมารูยาน เฟลไลนี่ ใส่เฝือกอ่อนข้อยันซ้ายเสมือนหนึ่งว่า การยักย้ายถ่ายเททีมจะยิ่งยากเย็นแสนเข็ญ

โดยไม่ว่าจะย้ายไปทีม นาโปลี หรือทีมใด

โดยที่ในบั้นปลายที่แม้ไม่ได้เป็นข่าว แต่ผมเชื่อว่า คอบอลส่วนใหญ่คงไม่เข้าใจว่า ทำไมต้องเติม มาร์กอส โรโฮ ด้วยค่าตัวเกือบ 20 ล้านปอนด์

เหตุเพราะว่ามีดาวรุ่งอย่าง 1.ลุค ชอว์, 2.แอชลีย์ ยัง ในตำแหน่งเดียวกันอยู่แล้วไม่นับที่ยังตกเป็นข่าวกับ เดลีย์ บลินด์ นักเตะตำแหน่งเดียวกันทางฝั่งซ้ายของกองหลังอีกคน

ซึ่งอาจจะกล่าวได้ว่า ซื้อใครแทบไม่ได้ แต่ยัง ซื้อซ้ำซ้อน ตำแหน่งทำไม

ถ้าหากว่า มีครบ ตัวหลักแต่ละตำแหน่งแล้วก็ไปอย่าง

และชั่วโมงนี้ที ชัดเจน ที่สุด คือ ภาวะความพร้อมของ ฝ่ายเชลซี vs ทีมแมนฯยูไนเต็ด ที่เคร่งเครียดแทนผู้เกี่ยวข้องสโมสรภูตผีปีศาจแดงจริงๆ



ล่าสุดสโคลส์หวั่นผีเจอะเจอยุคมืดเหมือนหงส์ 90


หลังจากที่สโคลส์ได้ออกมาเผยว่า หวั่นทีม ผี อาจเจอยุคมืดถ่ายแบบที่ทีม หงส์แดง ได้เคยประสบเคราะห์ในสมัย 1990 เชื่อถืออดีตต้นสังกัดโชว์ฟอร์มน่าผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง

ซึ่งพอล สโคลส์ ที่เป็นตำนานแข้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในศึก พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ยอมรับว่า บางที อดีตต้นสังกัดอาจต้องพบกับยุคมืดเหมือนที่ทีม ลิเวอร์พูล ยิ่งใหญ่คู่ปรับเคยตกต่ำจนแปรสภาพเป็นทีมขนาดกลางเมื่อช่วงยุค 90 หลังผลงานในซีซั่นที่แล้วไม่เป็นไปตามเกณฑ์ และยังเปิดหัวฤดูกาล 2014/15 ด้วยความพ่ายแพ้คาถิ่นต่อ สวอนซี 1-2

หลังจากที่อดีตกองกลางทีม ปิศาจแดง ได้เขียนลงในคอลัมน์ส่วนตัวผ่านทางสื่อ ดิ อินดิเพนเดนต์ ซึ่งเป็นสื่อแดนผู้ดีว่า ผมพรั่นกลัวแทน ยูไนเต็ด กลัวว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรติดมือเลย ดังที่เคยเกิดขึ้นกับ ลิเวอรืพูลช่วงยุค 1990 ส่วนตอนนี้พวกเขาต้องการอะไรน่ะหรือ  อาจจะเป็นผู้เล่นสัก 5 คน ที่เข้ามาพลิกสถานการณ์อันสิ้นหวังนี้ได้

กับท้ายที่สุดนั้น สโคลส์ ยังได้ตำหนิต้นขึ้นกับเก่าแบบระอาว่า ผมขอบอกให้ชัดๆ เลยนะ ผมรู้สึกหงุดหงิดมากที่ต้องวิจารณ์สโมสรซึ่งผมเคยทุ่มเททั้งชีวิตให้สมัยที่เป็นนักเตะ

โดยที่โปรแกรมฟุตบอลถัดไปของ แมนฯ ยูไนเต็ด คือการบุกเยี่ยม ซันเดอร์แลนด์ ในวันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม นี้


ทีมปืนใหญ่ ไม่ประทับใจในผลงาน



ถ้าหากเทียบเคียงเกมลูกหนังที่สนาม อาตาเติร์ก โอลิมปิยัต สตาดี้ เป็นดั่งสงครามทางการรบ อาร์เซนอล ก็คงไม่ต่างอะไรกับพลกล้าที่รอดตายกลับมาอย่างสะบักสะบอม

ถึงแม้ว่าผลเสมอ 0-0 จะไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไร แถมโอกาสในการลุ้นเข้ารอบก็ดูดีมีค่าธรรมเนียมมากกว่า เพราะเกมนัดสองจะได้กลับมาเล่นใน เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ในอีก 7 วันหลังข้างหน้า

แต่ว่ารายละเอียดต่างๆของเกมดูน่าผิดหวัง ไม่ว่าจะเป็นการเสียสถิติในการเล่นเพลย์ออฟ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ขุนพล ทีมปืนใหญ่ นั้นเป็นมือพระกาฬชั้นดีที่ชนะรวดทั้ง 12 เกมในรอบนี้

แต่สสั่งที่น่าหงุดหงิดใจเป็นที่สุดก็คงหนีไม่พ้นรูปเกมที่เปิดเผยมาตลอด 90 นาที วันนี้ยอดแข้งของทีมจากกรุงลอนดอนยังพากันออกทะเลเหมือนกับสิ้นสุดชนะทีม คริสตัล พาเลซ 2-1 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา


และนอกจากใบแดงของ แรมซี่ย์ แล้ว กัปตัน อาร์เตต้า ต้องมาเดี้ยงเพิ่มอีก

เหตุด้วยหนึ่งในศิษย์ทีม เดอะ กันเนอร์ส นั้นเชื่อเลยว่าแฟนบอลส่วนใหญ่ที่ไม่หลับหูหลับตาเชียร์จนเกินไป น่าจะเห็นพ้องต้องกันว่านัดนี้เป็นอีกเกมที่ดูอึดอัดมากๆและทีมยังมีจุดบกพร่องที่ต้องแก้ไขอีกมากมาย

ซึ่งโดยเจาะจงในเกมแดนกลาง ที่เล่นกันแบบสะเปะสะปะ ทีมเวิร์กจางหายเหมือนบอลไม่ได้ซ้อมร่วมกันมา ช่องหวาดเสียวที่ทีมพอจะได้ลุ้นประตูส่วนใหญ่ก็มาจากความสามารถเฉพาะตัวเสียมากกว่า

โดยจะยกตัวอย่างก็โอกาสทองในช่วงทดเจ็บก็มาจากการฉวยโอกาสลากบอลไปซัดด้วยซ้ายของ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน ที่โดนโกล์เจ้าบ้านปัดไปจนเสาอย่างน่าเสียดาย

ซึ่ีงผิดกับทางทีม เบซิคตัส ที่วันนี้เตรียมตัวมาดี นักเตะมีความกระตือรือร้น เล่นกันด้วยความมั่นใจ การครองบอล การต่อบอล ทำได้เนียนกว่าเยอะ การลุ้นประตูได้น้ำได้เนื้อกว่าเป็นไหนๆ


หลังจากที่เจอความแข็งแกร่งของเจ้าบ้าน แจ็ค วิลเชียร์ ถึงกับล้มลุกคลุกคลาน

โดยไม่ว่าจะเป็นลูกยิงครึ่งสนามหญ้าในวินาทีที่ 3 รวมไปถึงการกระโดดแปเน้นๆในนาที 16 และการล็อกไปยิงเฉี่ยวเสาในช่วงท้ายครึ่งแรกทั้งหมดจาก เด็มบ้า บา รวมถึงการยิงพ้นเสาสองของ โอลชาย ซาฮาน ในต้นครึ่งหลัง

ซึ่งทุกจังหวะที่กล่าวมาหากใครที่ได้ดูถ่ายทอดสด ผมว่าก็น่าจะนั่งไม่ติดเก้าอี้กันเลยแหละครับ

และจะเทียบสถิติให้เห็นง่ายๆเอาแค่ โอกุนชี่ โอซียาคุป อดีตเด็กปั้นของ อาร์เซนอล เพียงคนเดียวก็เปิดบอลเข้าไปในพื้นที่กรอบเขตโทษได้ถึง 5 ครั้งซึ่งมากกว่าทาง ทีมปืนใหญ่ ทั้งทีมที่จ่ายเข้าเขตอันตรายได้เพียง 2 ครั้ง

ในช่วงทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ ของสาวก ทีมปืนใหญ่ ได้พุ่งประเด็นไปในทิศทางเดียวกันก็คือผลงานที่ไม่ค่อยจะดีนักของ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ที่วันนี้ทำอะไรก็ด้อยไปหมด พักบอลไม่ได้ จ่ายบอลก็เสียแทบตลอด


ซึ่งนั่นทำให้แฟนปืนไม่ปลื้มอย่างแรงกับฟอร์มของ ชิรูด์

และขนาด แรมซี่ย์ ชิพบอลข้ามกองหลังให้ยิงโล่งๆก็ไปซัดลมอย่างน่าเกลียดน่าชัง ไม่น่าแปลกใจเลยที่หลังเกมจะมีกระแสโซเชียลอย่างมากมาย บางก็บอกให้สลับตัวกับอดีตหัวหอกทีม เชลซี

ซึ่งบางคนก็ว่าทีมจะไม่ได้แชมป์เลยหากหัวหอกทีมชาติ ฝรั่งเศส ได้ลงสนามหญ้าเป็นตัวจริงมากกว่า 85% และเสียงส่วนใหญ่ต้องการให้ซื้อหัวหอกตัวใหม่เข้ามาเสริมทีมเป็นการด่วน

ในนาทีนี้ อาร์เซนอล กำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ นอกจากจะต้องรอชี้ชะตาเกมสองกับทาง เบซิคตัส แล้ว สุดสัปดาห์นี้ก็มีศึกหนักในเกมลีกที่ต้องไปเยือน ทีมท็อฟฟี่ เอฟเวอร์ตัน

ซึ่งขุมกำลังที่ทั้งเจ็บและแบนรวมถึงแข้งไม่ฟิตเต็มไปหมด ดูแล้วงานนี้แฟนลูกบอลอย่างเราๆต้องลุ้นกันเหนื่อยอีกแน่



ทีมผีแดงล็อกเป้าเล็งทีจะกระชากอลอนโซ่คุมเกม



โดยที่สื่อวิเคราะห์บอลได้ตีประกาศว่า อลอนโซ่ ที่กำลังได้รับความสนใจจากทีม แมนฯ ยูฯ ที่หวังดึงกลับมาค้าแข้งในอังกฤษอีกครั้งหลังก่อนหน้านี้เคยมีประสบการณ์โลดแล่นในถิ่นแอนฟิลด์ กับ ลิเวอร์พูล มาแล้ว

ภายหลังที่ทมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตกเป็นข่าวเบนเข็มเล็งเป้าหมายใหม่ หลังล่าสุด มีรายงานว่าบอร์ดบริหารของ ทีมปีศาจแดง กำลังที่จะยื่นข้อเสนอทาบทาม ชาบี อลอนโซ่ ห้องเครื่องตัวเก๋าของเรอัล มาดริด มาร่วมทัพในอีกเร็วๆ วันนี้ ภายหลังจากที่มิดฟิลด์มาดคุณชาย มีโอกาสที่จะถูกตัดออกจากทัพ ทีมราชันชุดขาว ชุดตัวจริงในฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะมาถึง

โดยที่เดอะ เดลี่ย์ เอ็กซ์เพรสส์ ซึ่งเป็นสื่อกีฬาชื่อดัง ได้ตีข่าวรายงานว่าทีม แมนฯ ยูฯ เริ่มที่จะหันไปเล็ง อลอนโซ่ มาร่วมทัพอย่างจริงจัง ภายหลังจากที่เห็นว่าดาวเตะวัย 32 น่าจะได้รับโอกาสลงสนามกับ มาดริด น้อยลงในซีซั่นใหม่ ภายหลังจากที่มีสุดยอดแข้งอย่าง โทนี่ โครส เก็บข้าวของย้ายเข้ามา อีกทั้งบอร์ดบริหารของ ทีมราชันชุดขาว ก็ดูจะไม่ค่อยแฮปปี้เท่าไหร่นักกับการที่ อลอนโซ่ มีอาการบาดเจ็บออดๆ แอดๆ รบกวนอยู่ตลอดในช่วง 1 ปีหลังสุด

โดยสำหรับ อลอนโซ่ นั้นได้เคยมีประสบการณ์ค้าแข้งในศึกฟุตบอลลีกเมือง เมืองผู้ดี มาแล้ว เพราะว่าลงสนามรับใช้ทีมคู่อริอันดับ 1 ของ ทีมปีศาจแดง อย่าง ทีมลิเวอร์พูล ในช่วงปี 2004-2009 ลงสนามไป 210 นัด ทำไป 19 ประตู พา ทีมหงส์แดง คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก พร้อมด้วยเอฟเอ คัพ มาครองได้อย่างละ 1 สมัย



ดังนี้สิรักกันจริง หลังแฟนผีสักตราสโมสรบนหน้าผาก



สำหรับใครๆที่บอกว่ารัก ทีมผีแดง ดาดาษ อย่างนั้นอย่างนี้ หยุดเลยครับ เพราะไม่มีทางจะเทียบกับคนนี้ได้อย่างแน่นอน

โดยที่ Mr.Manchester United ซึ่งไม่ใช่สมญาแต่เป็นชื่อจริงตามกฏหมาย หลังเปลี่ยนจากซดราฟคอฟ เลวิดชอฟ ซึ่งใช่ครับ เขาเป็นชาวรัสเซีย ที่ทำให้โลกตะลึงอีกครั้งในความรักทีมโปรดอย่างสุดหัวใจด้วยการ สัก ปีศาจถือสามง่าม ตราโลโก้สโมสรบนหน้าผากของตัวเอง เพื่อเทิดทูนทีมรักที่ปักหัวใจเขาตั้งแต่ได้ชมเกมนัดชิงในตำนานที่พลิกเอาชนะ บาเยิร์น 2-1 ในปี 1999


และถึงจะดูแปลก อย่างเดียวว่าเจ้าตัวมั่นใจมากกับสิ่งที่ทำไป พร้อมกันเผยว่ามีคนให้ความชื่นชมกับเขามากมาย ซึ่งถ้าทำแล้วไม่เดือดร้อนคนอื่นก็ไม่เป็นไรครับ


ซึ่งเขาได้แจ้งไว้เผื่อทราบ ว่าเขามีแมว 1 ตัวครับ ชื่อว่า David Beckham

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น